GWR-B1000HJ-1A

Casio G-Shock นาฬิกาข้อมือผู้ชาย สายเรซิ่น รุ่น GWR-B1000HJ-1A - สีดำ

คุณสมบัติ

รุ่นที่เกิดจากความร่วมมือกับ HondaJet
ขอแนะนำรุ่นใหม่ที่เป็นผลงานจากความร่วมมือกันของ G-SHOCK และ HondaJet เครื่องบินที่ปฏิวัติวงการเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวโดยการมุ่งมั่นต่อความท้าทายของการบินส่วนตัวในสมัยใหม่
รุ่นพื้นฐานคือรุ่น TRIPLE G RESIST GRAVITY MASTER ที่มีโครงสร้างป้องกันแกนกลางที่ทำจากคาร์บอนและความสามารถในการทนต่อสภาวะแรงจากความเร่งโน้มถ่วงทั้งสามประเภท ได้แก่ แรงกระแทก แรงเหวี่ยง และแรงสั่น ตัวเรือนคาร์บอนชิ้นเดียวของรุ่น GRAVITYMASTER ให้ดีไซน์ที่ทนทานทว่าน้ำหนักเบา ขณะที่วัสดุคาร์บอนคอมโพสิตและการหล่อแบบชิ้นเดียวช่วยสร้างคุณสมบัติที่ทนทานและน้ำหนักเบา ซึ่งมาจากนวัตกรรมของ HondaJet รุ่นที่เกิดจากความร่วมมือรุ่นนี้เกิดขึ้นมาเพื่อการบรรลุเป้าหมายความสมดุลระหว่างฟังก์ชันการปกป้องเพื่อมอบความแข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้กับความสวยงาม
รุ่นที่เกิดจากความร่วมมือใหม่นี้ออกแบบมาภายใต้การควบคุมโดยตรงของ Michimasa Fujino ประธานและ CEO ของ Honda Aircraft Company ซึ่งเป็นผู้ควบคุมด้านการออกแบบและการพัฒนา HondaJet จุดเด่นอยู่ที่ตำแหน่งบอกเวลาที่ 12 นาฬิกา ซึ่งมาในรูปลักษณ์ของ HondaJet การออกแบบของตำแหน่งบอกเวลานี้สร้างสรรค์ขึ้นจากภาพสเก็ตช์ของ Michimasa Fujinoโดยตรง
สีขาวและสีน้ำเงินเมทัลลิกของรุ่นนี้สะท้อนถึงเทคโนโลยีชั้นเลิศล่าสุดของ HondaJet สีดำ G-SHOCK ของรุ่นนี้ตัดกับสีขาวที่กรอบซึ่งทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ และหน้าปัดสีขาว สีน้ำเงินเมทัลลิกที่หน้าปัดเล็ก ตัวเรือน และกรอบคั่นช่วยเน้นลุคที่ให้ความรู้สึกถึงความสง่างามและพลัง ผิวสัมผัสของเม็ดมะยมให้ความรู้สึกทันสมัยและทรงพลังของใบพัดเครื่องยนต์ HondaJet ซึ่งติดอยู่ที่ด้านบนปีกอย่างโดดเด่น ฐานของสายที่ตำแหน่ง 12 นาฬิการะบุข้อมูลจำเพาะทางการบินของ HondaJet (MCS: Maximum Cruising Speed - ความเร็วการบินสูงสุด, MOA: Maximum Operating Altitude - ความสูงที่บินสูงสุด, RANGE: ระยะทางเที่ยวบิน) ขณะที่สายตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกาอวดโฉมโลโก้ของ HondaJet การออกแบบเช่นนี้ช่วยคุณนึกถึงวัฒนธรรมของ HondaJet ได้ตลอดทั้งวัน
จิตวิญญาณของ HondaJet ที่มุ่งมั่นต่อความท้าทายระดับโลกอย่างไม่หยุดยั้ง ผสานแนวคิดของแบรนด์ G-SHOCK ที่ไม่ผลักดันมาตรฐานความแข็งแกร่งของอุปกรณ์บอกเวลาอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นนาฬิการุ่นที่เกิดจากความร่วมมือที่เหนือชั้นทั้งในแง่ของสไตล์และกลไกทางวิศวกรรม

Michimasa Fujino
ประธานและ CEO ของบริษัท Honda Aircraft
เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการของบริษัท Honda Motor
Michimasa Fujino เกิดในเมืองโตเกียว ปี 1960 จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโตเกียวด้วยวุฒิปริญญาเอกในด้านวิศวกรรมอากาศยาน เขาร่วมงานกับบริษัท Honda Motor ในปี 1984 และในปี 1986 เขาได้เริ่มต้นทำการค้นคว้าและพัฒนาในด้านอากาศยาน สิ่งนี้นำไปสู่การพัฒนาเครื่องยนต์ที่ติดตั้งเหนือปีกเครื่องบินและและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ผสานเข้าด้วยกัน ทำให้ธุรกิจอากาศยานขนาดเล็กอย่าง HondaJet ได้รับความนิยมระดับสากล
Fujino ได้รับการยกย่องระดับสากลในด้านการมีส่วนร่วมต่อการค้นคว้าและออกแบบอากาศยาน และได้กลายมาเป็นชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ได้รับรางวัลจากองค์กร American Institute of Aeronautics and Astronautic (AIAA) ระดับสากลในด้าน “Aircraft Design Award” (2012) รางวัล SAE International “Clarence L. (Kelly) Johnson Aerospace Vehicle Design and Development Award” (2014) และรางวัลจาก International Council of the Aeronautical Sciences (ICAS) ในด้าน “Award for Innovation in Aeronautics” (2014) เขาเป็นวิศวกรอากาศยานคนแรกในโลกที่ได้รับทั้งสามรางวัลนี้
Fujino ได้รับเกียรติในฐานะหนึ่งใน “Living Legends Of Aviation” ซึ่งเป็นรางวัลที่ยกย่องบุคคลเช่น Elon Musk, Jeff Bezos และบุคคลอื่นๆ ที่ได้สร้างผลงานที่สำคัญด้านอุตสาหกรรมอวกาศในสหรัฐอเมริกา เขายังได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ National Academy of Engineering ในสหรัฐอเมริกา

ข้อมูลจำเพาะ

• วัสดุตัวเรือน / กรอบ: คาร์บอน
• สายเรซินผสมคาร์บอนไฟเบอร์
• TRIPLE G RESIST (ทนต่อแรงกระแทก, ทนต่อแรงเหวี่ยง, ทนต่อแรงสั่นสะเทือน)
• นีโอไบรท์
• กระจกทรงกลม
• เม็ดมะยม
• โครงสร้างป้องกันแกนกลางที่ทำจากคาร์บอน
• กันสนิม
• กรอบไฟเบอร์คาร์บอน
• กระจกแซฟไฟร์เคลือบด้วยสารกันแสงสะท้อน
• กันน้ำลึก 200 เมตร
• ไฟ LED (ตัวเรืองแสงโดดเด่น)
  แสงระเรื่อ
• Tough Solar (พลังงานแสงอาทิตย์)
• การรับสัญญาณเทียบเวลามาตรฐาน
  รับสัญญาณอัตโนมัติได้ถึง 6* ครั้งต่อวัน (จะยกเลิกการรับสัญญาณอัตโนมัติที่เหลือทันทีเมื่อมีการรับค่าหนึ่งได้แล้ว)
  *5 ครั้งต่อวัน สำหรับการรับสัญญาณเทียบเวลามาตรฐานจากประเทศจีน
  การรับด้วยตัวเอง
  ผลการรับสัญญาณครั้งล่าสุด
• สัญญาณเทียบเวลามาตรฐาน
  ชื่อสถานี: DCF77 (เมืองมายน์ฟลินเกน ประเทศเยอรมนี)
  ความถี่: 77.5 kHz
  ชื่อสถานี: MSF (เมืองอันธอร์น ประเทศอังกฤษ)
  ความถี่: 60.0 kHz
  ชื่อสถานี: WWVB (เมืองฟอร์ต คอลลินส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา)
  ความถี่: 60.0 kHz
  ชื่อสถานี: JJY (เมืองฟุกุชิมา, ฟุกุโอกะ/ซากะ ประเทศญี่ปุ่น)
  ความถี่: 40.0 กิโลเฮิร์ตซ์ (ฟุกุชิมา) / 60.0 กิโลเฮิร์ตซ์ (ฟุกุโอกะ/ซากะ)
  ชื่อสถานี: BPC (เมืองฉางชิว, มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน)
  ความถี่: 68.5 kHz
• Mobile Link (การเชื่อมต่อแบบไร้สายโดยใช้ Bluetooth®)
• การเคลื่อนเข็มไปที่ตำแหน่งแรกอัตโนมัติ
• แสดงเวลา 2 พื้นที่
  27 เขตเวลา การสลับเวลาของเมืองหลัก การสลับเวลาในฤดูร้อนโดยอัตโนมัติ (DST)
• จับเวลาละเอียด 1 วินาที
  จับเวลาต่อเนื่องสูงสุด: 23:59'59
  อื่นๆ: Flyback, จับเวลาได้ทันทีจากโหมดบอกเวลาปกติ
  
• นาฬิกาจับเวลาถอยหลัง
  หน่วยการวัด: 1 วินาที
  ช่วงเวลาการนับถอยหลัง: 24 ชั่วโมง
  ระยะเวลาเริ่มต้นการนับถอยหลังที่ตั้งได้: 1 นาทีถึง 24 ชั่วโมง (เพิ่มขึ้นครั้งละ 1 วินาที)
• นาฬิกาปลุกที่ทำงานทุกวัน
• ตัวแสดงระดับแบตเตอรี่
• ประหยัดพลังงาน (เข็มนาฬิกาจะหยุดเดินเมื่อนาฬิกาวางทิ้งอยู่ในที่มืด)
• แสดงปฏิทินแบบเต็มโดยอัตโนมัติ (ถึงปี 2099)
• การแสดงวันที่
• ตัวระบุวัน
• บอกเวลาปกติแบบทั่วไป
  อะนาล็อก: 3 เข็มนาฬิกา (ชั่วโมง, นาที (เข็มเดินทุกๆ 10 วินาที), วินาที)
  3 หน้าปัด (บอกเวลาเป็นชั่วโมงและนาทีแบบ 2 ระบบ บอกเวลา 2 ระบบแบบ 24 ชั่วโมง บอกวัน)
• ความแม่นยำ: ±15 วินาทีต่อเดือน (โดยไม่มีการปรับเทียบสัญญาณและฟังก์ชัน Mobile Link)
• อายุการใช้งานแบตเตอรี่โดยประมาณ:
  5 เดือนกับแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟได้ (ซึ่งเป็นระยะเวลาการใช้งานปกติโดยที่แบตเตอรี่ไม่โดนแสงหลังจากการชาร์จ)
  18 เดือนกับแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟได้ (ซึ่งเป็นระยะเวลาการใช้งานเมื่อเก็บแบตเตอรี่ไว้ในที่มืดสนิทพร้อมกับเปิดฟังก์ชันประหยัดพลังงานหลังจากที่ชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้ว)
• ขนาดตัวเรือน : 50.1×46.4×16.9mm
• น้ำหนักรวม : 72g